บทที่ 2 : Gods Slayer
[พระเจ้า] ขึ้นชื่อว่าพระเจ้าแล้วที่อยู่คงเป็นวิหารสง่างามท่ามกลางหมู่เมฆ หรือไม่ก็เป็นสถานที่ที่ขาดไม่ถึง ...แต่นี่มัน ...นี่มัน
"นี่มันอะไรวะเนี่ยยยยยย" ผมร้องออกมาจากก้นบึ้งของจิตใจ
"หืมมม? อะไรของนายนะ ก็บ้านของพระเจ้าไงละ" กรกฎตอบอย่างเฉยเมย
"ไม่ใช่เฟร้ย! นี่เนี่ยนะบ้านพระเจ้า? ม่ายช่ายอ่า~~~~~" ใช่ครับ ผมพูดว่า'บ้าน'จริงๆ พวกคุณไม่ได้อ่านจนตาลาย หรือเจ้าของบล็อกพิมพ์ผิดหรอกนะ
"อย่าว่าแต่บ้านเลย! นี่มันกระท่อมแล้วนะ กระท่อมชายทะเลชัดๆ" บ้านของพระเจ้าที่กรกฎพูดถึงคือ 'กระท่อมเก่าๆ โทรมๆ ชายทะเล' ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าอย่างพระเจ้าจะมาอยู่แบบนี้
"อะไรกันน่ะ ท่าทาแบบนั้น ไม่เชื่อหรือไง" กรกฎทำหน้าสงสัย
"จะว่าไปก็เถอะ ทำไมที่นี่ท้องฟ้ามีสีปกติละ แล้วเราออกมาจาก Negative Space ได้ยังไง"
"ที่นี่คือ[โลก] บอกแล้วไงละ ส่วนไอ้ Negative Space ที่นายเรียกนะ พวกเราเรียกมันว่า 'Field' เป็นที่ๆเทพจะปรากฏตัว เมื่อกี้วอลเฟนตายแล้วใช่มั้ยละ ฟีลด์เลยหายไปไง" กรกฎอธิบาย
"โอเคๆ แล้วโลกนี้นะ มันเกี่ยวอะไรกับโลกของเรามั้ย"
"ตอบตามตรงว่า นิดหน่อย ไม่งั้นพวกเราไม่มีทางได้รับคำเชิญให้มาเล่นเกมนี้หรอก แต่โดยรวมแล้วก็ไม่ได้เกี่ยวพันกันมากหรอก แค่บางทีมิติก็เชื่อมโยงกันนะ"
"คำเชิญ ...งั้นเหรอ" ผมคิดในใจว่าใครจะเป็นคนส่งหมาป่าตัวใหญ่มาเชิญผมเล่นเกมกัน
"เอาละ เข้าไปกันเถอะ จักรก็น่าจะรอนานแล้ว"
"จักร? หมอนั่นด้วยเหรอ?"
"อา ใช่แล้วละ หมอนั่นเป็นคนแรกเลยนะที่ชนะเทพได้นะ"
ว่าแล้วผมก็เปิดประตูกระท่อมเล็กๆนั่นเข้าไป แล้วสิ่งที่ผมได้พบก็คือจักร ซึ่งกำลังนั่งเล่นหมากรุกอยู่กับใครบางคน
ใครบางคนซึ่ง .....ตัวสูงไม่เกิน 150 อย่างแน่นอน แถมยังเป็นเด็กผู้หญิงซะอีก ผมสีเงินของเธอยาวจนแทบจะติดพื้น หน้าตาน่ารักสดใส ดวงตากลมโตสีฟ้าส่องประกายกำลังจ้องไปที่กระดานหมากรุกอย่างใจจดใจจ่อ เธอแต่งตัวด้วยชุดเดรสสีขาว และผ้าคลุมไหล่สีเหลืองสวยงาม ผมซึ่งเต็มไปด้วยความสงสัยจึงต้องเอ่ยปากออกไป
"เอ่อ ไหนพระเจ้าหรอ"
"เราไง" เด็กผู้หญิงคนนั้นลุกขึ้นยืนแล้วหันมายิ้มให้ผม
"เอ๋ คนไหนนะ" ผมถามด้วยความสงสัย ทำเป็นไม่สนใจเสียงเมื่อกี้
"เราไงๆ เราเอง" เด็กผู้หญิงคนนั้นโบกไม้โบกมือให้ผม
"........"
"........ สวัสดี เราพระเจ้า นายคือกันย์ใช่มั้ย"
"Oh My God! มันจะผิดอิมเมจของพระเจ้าเกินไปมั้ยเนี่ย โอ้ววววววว" ผมตะโกนเอาความในใจออกมาหมด
"เดี๋ยวเถอะ! เห็นอย่างนี้เราอายุมากกว่าเจ้าหลายรอบเชียวนะ!" พระเจ้าทำหน้าโมโหแล้วยืนกอดอด
"แล้วมันมีอะไรมาพิสูจน์มั้ยละ ว่าเธอนะคือพระเจ้าจริงๆ"
"ก็ได้ ดูให้ดีแล้วกัน" เธอพูดแล้วหลับตา
ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! พวกเราทั้งหมดมายืนอยู่ที่แห่งหนึ่งที่ไม่ใช่กระท่อมเก่าๆเมื่อกี้แน่นอน
"ที่นี่มัน .....ที่ไหน" รอบตัวผมเรียงรายไปด้วยแท่งผลึกมากมายที่ลอยเหนือพื้นดิน
"ที่นี่คือ ไชรน์ฟอนเมียร์ [Schrein von mir] วิหารแห่งข้าไงละ"
"พระเจ้าค่ะ อธิบายเถอะค่ะ เรื่องเกมนี้นะ" กรกฎเร่งรัด
"ยังใจร้อนเหมือนเคยนะ 'กำปั้นแห่งการทำลายล้าง' Faust der Zerstörung"
"ที่ยัยเด็กนั่นพูดมะกี้ ภาษาอะไรนะ" ผมกระซิบกับจักรที่ยืนอยู่ข้าง
"เยอรมัน ก่อนที่เธอจะมาครองตำแหน่งนี้ เธอเคยเป็นคนเยอรมันมาก่อนนะ" จักรตอบเบาๆ
"งั้นก็แปลว่าเธอเคยเป็นผู้เล่นแบบเรางั้นเรอะ"
"ใช่สิจ๊ะ พ่อ'คมดาบแห่งกษัตริย์' Klinge des Königs" พระเจ้าตอบพร้อมกับยิงภาษายากๆมาอีกแล้ว
"เอ๋~~~ ไม่ยากหรอกนะ ถ้าตั้งใจละก็ ไม่กี่วันก็พูดได้แล้วจ๊ะ"
'เฮ้ยยย อ่านใจเรอะ!!?' ผมคิดในใจ
"แน่นอนจ๊ะ ก็บอกแล้วไงเราคือพระเจ้าจริงๆนะ"
"พระเจ้าค่ะ เริ่มอธิบายได้แล้วค่ะ!!!" กรกฎทำเสียงดุ
"จ๊ะๆ งั้นเราคงต้องเริ่มตั้งแต่นิยามของ Slayer แล้วสินะ"
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
นานมาแล้ว ตั้งแต่ที่โลกแท้ หรือคือ'โลกที่เจ้าอาศัยอยู่'เกิดขึ้นมา 'โลกเทียม'แห่งนี้ก็เกิดขึ้นมาพร้อมๆกัน ถึงจะเรียกว่าโลกเทียม แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเป็นของปลอม แค่เป็นสิ่งที่ลอกแบบจากโลกแท้มาเท่านั้น หากแต่ว่าโลกเทียมแห่งนี้ยังขาดหลายๆสิ่งที่โลกแท้มี โลกแท้มีความหวัง แต่โลกเทียมนั้นไม่มี, โลกแท้มีความเชื่อ แต่โลกเทียมนั้นไม่มี, เพราะโลกเทียมไม่มีมนุษย์อาศัยอยู่เลย แต่โลกเทียมเองก็มีกฏของการคัดสรรค์โดยธรรมชาติเหมือนกัน ในโลกแท้ มนุษย์ถูกเลือกให้เป็นผู้มีวิวัฒนาการ แต่ในเมื่อโลกเทียมไม่มีมนุษย์อยู่ สิ่งที่ถูกเลือกก็คือสิ่งมีชีวิตอื่น เช่น 'วอลเฟน' คือหมาป่าที่ถูกเลือกให้กลายเป็นสิ่งที่เหนือกว่าหมาป่าทั่วไป พวกเราจะเรียกสิ่งนั้นว่า[เทพ]
เทพ มีความสามารถที่จะดึงเอาพลังต่างๆในฟีลด์ของตัวเองมาใช้ได้อย่างอิสระ เทพที่ถูกเลือกโดยโลกเทียมจึงได้ทำการปกครองโลกเทียมไว้เป็นส่วนๆไป แต่ถึงจะเรียกว่าการคัดสรรค์โดยธรรมชาติ แต่ธรรมชาติของที่นี่ก็ถูกควบคุมโดย[พระเจ้า]อีกทีเหมือนกัน พระเจ้าคนแรกนั้นมีความต้องการให้โลกเทียมมีพลังเท่าโลกแท้ จึงได้พยายามเชื่อโลกทั้งสองผ่านช่องทางที่ง่ายที่สุด คือ'จิตใจ' ซึ่งเวลาที่จิตใจจะพร้อมที่สุดในการเชื่อมต่อก็คือเวลาที่หลับไป จนเริ่มมีมนุษย์เข้ามาที่โลกเทียมมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้พวกเทพไม่พอใจในพระเจ้า และคิดจะล้มล้างพระเจ้าซะ พระเจ้าจึงได้ตั้งเกมขึ้นมา เรียกว่า 'Gods Slayer' โดยตั้งกฏการเล่นไว้ว่า
1.อาวุธจะมาจากจิตใจของผู้เล่นเอง
2.ให้สังหารเทพที่คิดตั้งตนเป็นกบฏ
3.ผู้ที่อยู่เป็นคนสุดท้าย จะได้รับสิทธิในการเป็นพระเจ้าคนต่อไป หรือ ขอพรได้ 1 อย่าง
ในครั้งนั้นผู้ชนะคือหญิงสาวรูปงามนามว่า [มาริน เรเกน] ผู้ถือครองดาบแห่งสายฝน และได้รับตำแหน่งพระเจ้าคนต่อมา แต่ว่าเทพนั้นไม่ใช่สิ่งที่ยืนอยู่บนหลักความจริงอยู่แล้ว เมื่อเวลาผ่านไปนานๆเข้า เทพเองก็ฟื้นคืนพลังกลับมา เพราะฉะนั้น พระเจ้าคนปัจจุบันจึงต้องเริ่มเกม Gods Slayer อีกครั้งไงละจ๊ะ....
"มันก็เท่านี้แหละนะ ความเป็นมาของ Slayer น่ะ" พระเจ้าพูด
"เดี๋ยวนะ สาวงาม มาริน คนนั้น คือเธอเหรอ" ผมถามพระเจ้า
"ใช่แล้วล่ะจ้า เราคือมาริน เรเกน คนนั้นไง" พระเจ้าทำท่าแอ๊บเด็ก
"เฮ้ยๆ นี่มันตั้งกี่ร้อยปีแล้วนะ อย่ามาทำท่าแอ๊บเด็กนะ" ผมพูดพลางโบกมือไปมา
"....... ไอ้เด็กบ้านี่ ......." พระเจ้าพูดเสียงเบา และแล้วก็ 'เปรี้ยง!!!' ฟ้าผ่าลงมาข้างหน้าผมพอดี ผมยืนนิ่งได้แต่มองรูจากฟ้าผ่าเมื่อกี้
"เอ่อ คือๆ คือว่านะ ....." ผมค่อยๆเดินถอยหลัง แล้วสะดุดขาตัวเองลงไปนั่งกับพื้น
"มีอะไรจะพูดอีกห๊า! ไอ้เด็กบ้าเอ๊ย!" พระเจ้าค่อยๆเดินลากมาอย่างน่าสยอง ผมรู้สึกว่ามองเห็นออร่าความอาฆาตหลั่งไหลออกมาจากรอบตัวของเธอ
"ขอโทษคร้าบบบ ผมจะไม่พูดอีกแล้ว ขอโทษครับ!" ผมยกมือบังหน้าตัวเอง
"...หุหุหุ ....ฮิฮิ" พระเจ้าหัวเราะเบาๆ พยายามกลั้นความรู้สึกไว้
"ฮ่ะๆๆๆ หน้านายเหวอสุดๆเลยวะ" จักรหัวเราะท้องแข็ง
"ฮิฮิ ขอโทษนะจ๊ะ ท่าทางเราจะแกล้งเธอหนักไปหน่อยแล้วมั้ง" พระเจ้ายิ้มแป้นจนทำเอาตาสีฟ้าคู่สวยหรี่ลงแทบไม่เห็นนัยน์ตา
"อึ๊ก... ยัยป้านี่ หาเรื่องเรอะไงห๊า!" ผมพูดเสียงดัง
พระเจ้าค่อยๆเดินเข้ามา แล้วกระชากคอเสื้อผมลงไปให้หูผมพอดีกับปากเธอ
"พูดว่าป้าอีกทีสิ แกได้ตายก่อนเจอเทพองค์ต่อไปแน่..."
"ครับ!!!" ผมตอบรับทันควัน ไม่กล้าต่อปากต่อคำอีกต่อไป
"แล้วถ้าอย่างนั้น ทำไมพระเจ้าไม่จัดการเทพเองเลยละค่ะ พลังก็มีมากมายแล้วนี่" กรกฎถาม วันนี้เธอดูเงียบๆชอบกล ไม่เหมือนปกติเลย
"ง่ายๆเลยนะ เรา-เบื่อ-น่ะ-สิ-จ๊ะ" พระเจ้าตอบอย่างสนุกสนาน
"ถ้าเราใช้พลังละก็นะ จะทำให้โลกนี้หายไปเลยก็ได้ แต่เพราะมันไม่สนุกนะสิ เราเลยไม่ทำ"
"ความ...สนุกเรอะ" ผมพูดอะไรไม่ออก
"นี่กรกฎ จะถึงเวลาแล้วนะ" จักรพูดกับกรกฎ
"อ๊ะ! ลืมไปเลยแหะ" กรกฎทำหน้าตกใจ
"เวลาอะไรเหรอ" ผมถามด้วยความอยากรู้
"จักรสามารถรับรู้เวลาที่เราจะกลับไปโลกแท้ได้นะ ตอนนี้ก็ใกล้แล้วด้วย" กรกฎตอบ
"งั้นพรุ่งนี้เราจะส่งภารกิจไปให้นะ" พระเจ้าหันมาบอกพวกผม
"ภารกิจอะไรเหรอครับ" ผมถามกลับ แต่ยังไม่ทันได้คำตอบ
พลั่กๆๆ ตุ้บ...
"ให้ตายเถอะ จะกลับมาในสภาพดีๆไม่ได้เหรอไงเนี่ย" ผมพูดกับตัวเอง
ครืดดด ครืดดด มือถือผมสั่น คงเป็นข้อความละมั้ง ใครส่งมาละเนี่ย
'ภารกิจที่ 1 : รวมตัวกับ Slayer คนอื่นๆให้ได้ 5 คน จำกัดเวลา 8 ชั่วโมง'
Next Chapter : Team & Theme
รอติดตามตอนต่อไปอยู่น้อ
ตอบลบ