วันศุกร์ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2554

April Fool's Day Special : TRUST

TRUST

1/4/2554


10:45 น.
     ........ปี๊บ... ปี๊บ... ปี๊บ...   เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น บังคับให้ผมต้องตื่นจากการหลับไหลอันแสนสบายของผม 
     "...อา วันนี้วันอะไรเนี่ย?" ว่าแล้วผมก็หยิบมือถือขึ้นมาดู
     "หืมมม วันศุกร์เรอะ ...บ้าจริง" ผมสบถกับตัวเองหลังจากผมว่าวันนี้คือวันศุกร์ที่ 1 เมษายน
     ทำไมผมถึงเกลียดวันนี้นะเหรอ เพราะวันนี้มันเป็นวันที่คนโง่แบบผมต้องโดนปั่นหัวไปตลอดทั้งวัน โดยที่ไม่สามารถทำได้แม่แต่[โกรธ]เลยไง ผมมีความทรงจำที่ไม่ค่อยดีกับวันนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว เพราะผมเป็นคนที่เชื่อคนง่าย ง่ายดายเกินไป...จนเรียกได้ว่าโง่ ปีที่แล้วผมโดนหลอกให้ไปเดินเล่นที่สยามสแควร์ตอนตี 5 คนเดียว (เพราะเพื่อนหลายๆคนส่งข้อความมาหาว่าจะทำเซอไพรซ์วันเกิดเพื่อนคนนึง) สองปีที่แล้วผมโดนหลอกให้เสียเงินเป็นค่าไอศกรีมของเพื่อนๆทั้งห้อง (เพราะเพื่อนหลายๆคนบอกว่าจะเอาเงินจำนวนนั้นไปทำโครงงาน) และอีกมากมาย
     "เฮ้อ~~~~~~~" ผมถอนหายใจยาวๆให้กับความโง่ของตัวเอง
     ผมสัญญากับตัวเองไว้แล้ว ว่าปีนี้ผมจะไม่โดนใครหลอกอีกเด็ดขาด! แล้วผมก็เดินลงไปเปิดตู้เย็นดู ว่ามีอะไรพอจะเป็นอาหารเช้าได้มั่ง และสิ่งที่พบมีดังนี้
     - นมหมดอายุ
     - ต้นหอมเหี่ยวๆ
     - เนื้ออะไรซักอย่างที่น่าจะเคยโดนหมักไว้
     - มันฝรั่งอบกรอบเหลือๆ (ซึ่งไม่รู้ที่มาที่ไป ว่ามาอยู่ในตู้เย็นได้ยังไง)
     "....." ความเงียบเข้าปลกคลุมห้องครัว ผมไม่อาจอธิบายได้ว่าทำไมของในตู้เย็นถึงเป็นแบบนี้ หรืออาจเพราะว่าผมกินข้าวนอกบ้านมาตลอด 2 อาทิตย์แล้ว จึงไม่ได้ดูของในตู้เย็นเลย
     "แบบนี้ต่อให้รายการเชฟ*มี ก็ไม่ไหวละมั้ง" ผมพูดกับตัวเอง แล้วจึงเดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้า

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

11:30 น.
 
     "ทั้งๆที่กะว่าจะไม่ออกจากบ้านแล้วนะเนี่ย" ผมบ่นเบาๆ เพราะถ้าไม่ออกจากบ้าน ก็ไม่โดนใครหลอก
     "สวัสดีค่ะ วันนี้เรามีโปรโมชั่นพิเศ..." คุณพนักงานหน้าเคาน์เตอร์พูดเสนอโปรโมชั่นไปเรื่อยๆ โดยที่ผมไม่ได้สนใจแม้แต่น้อย 
     ผมเลือกของแล้วจึงเดินไปจ่ายเงิน แต่ข้างหน้าผมก็มีผู้หญิงคนหนึ่งทำท่าทางแปลกๆ
     "อ๋า... อ๋า!!! หายไปแล้ว!!?" เธอร้องเสียงดัง
     "เอ่อ มีอะไรเหรอครับ" ผมเข้าไปถามเธอ
     "ก็... กระเป๋าสตางค์ของฉันหายไปแล้วนะค่ะ" เธอตอบเสียงอ่อย
     "เอ่อ ถ้าอย่างนั้น ผมให้..." อึ่ก! แย่ละ ผมเกือบลืมไปเลยว่านี่คือวันอะไร เธออาจจะโกหกก็ได้นี่ แต่ว่าเธอจะกล้าโกหกแบบนี้กับคนที่ไม่รู้จักเชียวเหรอ แต่สมัยนี้คนเราเชื่อใจกันได้ที่ไหนละ แต่ว่าเธอก็ท่าทางเดือดร้อนจริงๆนี่นา อร๋าาาาาาา ความคิดมากมายถาโถมเข้ามา
     "อ่า อะไรเหรอค่ะ?" เธอถาม แล้วส่งยิ้มให้กับผม
     "เอ่อ......"

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

12:18 น.

     "ขอบคุณนะค่ะ ที่ให้ฉันยืมเงินคุณก่อน" เธอพูดขอบคุณผมเป็นครั้งที่ 3 แล้วหลังจากออกจากร้านขายของมา
     "ไม่เป็นไรหรอกครับ แฮะๆๆ" ผมยิ้มกร่อยๆให้ เธอบอกว่าจะคืนเงินให้เมื่อเธอถึงบ้านแล้ว
     "แต่ว่าคนแบบคุณนี่หายากนะค่ะ สมัยนี้แล้ว หาคนใจดีแบบคุณยากจริงๆ" เธอพูด
     "ไม่ขนาดหรอกครับ" ผมตอบอย่างเขินอาย นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้เดินคู่กับผู้หญิงแบบนี้ พอดูดีๆแล้วเธอน่าจะเป็นพี่สาวผมประมาณ 2-3 ปี แต่เธอก็เรียกผมว่าคุณอย่างมีมารยาท
     "อ่ะ ถึงแล้วละคะ" พวกเราหยุดอยู่ตรงหน้าบ้านหลังใหญ่แห่งหนึ่ง
     "เดี๋ยวฉันไปเอาเงินให้นะค่ะ รอซักครู่ค่ะ" เธอพูดกับผม
     "ครับ ไม่ต้องรีบนะครับ" ผมตอบกลับอย่างระวังคำพูด
     "นี่ค่ะ" เธอยื่นเงินให้ผม
     "อ่ะ ครับๆ" ผมรับเงินมา
     "ยังไงซะฉันก็ยังเชื่อว่าคุณเป็นคนดีนะค่ะ คนดีๆแบบคุณน่ะขอให้พระเจ้าคุ้มครองนะค่ะ" เธอยิ้มออกมาอย่างสดใส
     "ขอบคุณครับ ถ้าโชคดีคงได้เจอกันอีกนะครับ" ผมพูดตัดบท เพื่อจะได้รีบกลับบ้านซะที
     "ลาก่อนค่ะ" เธอยิ้มตอบผม "อย่าลืมนะค่ะ การเชื่อใจกัน เป็นสิ่งสำคัญของมนุษย์นะค่ะ"

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

14:37 น.

     ครืด... ครืด... ครืด...   มือถือผมสั่นอยู่บนโต๊ะ ผมจึงหยิบขึ้นมารับ
     "ช่วยฉันด้วยนะเว้ย!" เสียงเพื่อนผมตะโกนดังออกมาจากโทรศัพท์
     "เฮ้ย ใจเย็นๆก่อน มีอะไรเนี่ย" ผมพยายามพูดให้มันใจเย็น
     "น้องสาวฉันหายตัวไปนะสิ"
     "ห๊ะ!!? น้องสาวหายไป ได้ยังไงวะ"
     "ไม่รู้เหมือนกัน นายมาช่วยฉันหาหน่อยนะ"
     "ได้ๆ จะรีบไปนะ"

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ 


15:14 น.


     ผมมาถึงที่ๆเพื่อนนัดไว้ มันเป็นสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง ซึ่งเพื่อนผมบอกว่าน้องมันเล่นที่นี่อยู่ ตอนที่เห็นครั้งสุดท้าย ผมไม่เห็นวี่แววของใครเลย จึงรีบโทรตามเพื่อน
     "ถึงไหนแล้ว ฉันถึงแล้วนะ" ผมถาม
     "......."
     "ได้ยินมั้ย ถึงไหนแล้ว"
     "ขอโทษ... ฉัน...ขอโทษ..." เสียงแผ่วๆตอบกลับมา
     "อะไรน่ะ" ผมถามด้วยความสงสัย
     "ปี๊บๆๆๆๆ" สายถูกตัดไป


     "มาแล้วหรอวะ ไอ้หนู" เสียงที่ฟังแล้วน่ารำคาญเหมือนพวกนักเลงในหนังเก่าๆดังขึ้น
     "อ๋อ แกนะเอง" เจ้าของเสียงนั้นคือรุ่นพี่ที่โรงเรียนผมนั่นเอง ผมมีเรื่องกับมันเมื่อตอนต้นเทอม แล้วมันก็ถูกพักการเรียนไป
     "ยังคงจำได้ใช่มั้ย ว่าทำอะไรไว้นะ ห๊า!!!" มันตะคอกใส่ผม
     "เออ ต่อยแค่ทีเดียวแกก็หงายแล้ว ไม่ต้องจำมากหรอกน่า" ผมตอบกลับไป ผมเองก็พอมีฝีมือในการชกต่อยพอตัว กับอันธพาลที่ดีแต่ปากแบบนี้ ผมคงไม่ลำบากมากนัก
     "หึ้ยยย พูดได้พูดไปเถอะวะ วันนี้ฉันเอาพวกมาด้วยหรอก" มีคนรุ่นราวคราวเดียวกับรุ่นพี่เดินมาจากมุมตึกประมาณ 4-5 คน ทุกคนมีไม้ในมือพร้อม
     "อะไรมันจะบังเอิญขนาดนี้เนี่ย" ผมชักสงสัยว่า ตกลงผมเป็นคนโง่มาก หรือคนซวยมากกันแน่ ถึงได้เจอเรื่องแย่ๆแบบนี้ได้
     "ฮ่าๆๆๆ มันบอกว่ายังเอิญวะเฮ้ย" หนึ่งในพวกนั้นขำลั่นออกมา
     "เออวะ ฮ่าๆๆๆ ถ้าไม่ใช่ว่าเพื่อนมันนัดมันมาให้ ก็คงไม่เจอหรอก" คู่อริผมเสริม
     "..... งี้นี่เอง...สินะ" ผมเข้าใจเรื่องทั้งหมดแล้ว ...หึหึ ปีนี้เล่นกันแบบนี้เลยเหรอ? ผมถามตัวเอง ไม่เข้าใจว่าทำไมกัน ทำไมผมถึงเชื่อเพื่อน ทั้งๆที่ผมไม่เคยเห็นน้องสาวมันเลยซักครั้ง
     "เฮ้ยๆ มันร้องไห้วะ สงสัยกลัวจนบ่อน้ำตาแตกแล้วมั้ง ฮ่าๆๆๆ" คู่อริผมหัวเราะเยาะเสียงดัง
ผมเองก็ไม่รู้ว่าทำไมกัน แต่ตอนนี้น้ำตามันไหลลงมาอาบแก้มทั้งสองของผม ทำให้มองภาพข้างหน้าไม่ชัด ทำให้ไม่มีแรงกำหมัด ไม่มีแรงแม้แต่จะยืนให้มั่นคง ขาผมอ่อนแรง ทรุดลงไปนั่งคุกเข่ากับพื้น
     [คนดีๆแบบคุณน่ะขอให้พระเจ้าคุ้มครองนะค่ะ] ขอโทษนะครับ แต่พระเจ้าคงไม่ได้ยินที่คุณขอแน่ๆเลย ผมนึกถึงคำพูดของเธอคนนั้นที่ผมเจอเมื่อตอนกลางวัน ใช่แล้ว...พระเจ้าน่ะ ไม่ได้คุ้มครองผมหรอก เพราะว่า...ผมไม่เชื่อในพระเจ้าแต่ไหนแต่ไรแล้วไงละ นี่คือการลงโทษที่ผมไม่เชื่อในท่านสินะ นี่คือชีวิตของคนที่ไม่เชื่อในพระเจ้าสินะ
     พลั่ก! บึ้ก! ผัวะ!   เสียงทุบตีดังอย่างไม่หยุดยั้ง ผมนับจนเลิกนับไปแล้วว่าผมโดนอัดไปกี่ครั้งแล้ว รู้แค่ว่าตัวผมชาไปหมด มองไปรอบตัวมีแต่เลือดเต็มไปหมด เลือดใครละ เลือดผมสินะ


++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


20:37 น.


     "อึก... อา... นี่ ที่ไหน" ผมถามผู้หญิงในชุดขาวข้างหน้าผม
     "โรงพยาบาลนะ" ที่แท้เธอคือพยาบาลนะเอง คงมีคนมาเจอผมสินะ
     "รอเดี๋ยวนะ มีคนมารอพบเธอละ" คุณพยาบาลบอก
     "เข้ามาได้แล้วจ๊ะ" เธอพูดกับคนที่อยู่ข้างนอก
     "เอ่อ... เป็นไงมั่ง เจ็บมากมั้ย" คนที่พูดคือไอ้คนที่ทำให้ผมต้องอยู่ในสภาพนี้
     "แก!!! ยังมีหน้าโผล่มาอีกหรอวะ!!!" ผมตะคอกเสียงดัง ทำเอามันตกใจจนแทบร้องไห้
     "ฉันขอโทษ... พวกมันขู่ว่าถ้าฉันไม่ทำแบบนั้น มันจะทำร้ายฉัน" เพื่อนผมสารภาพน้ำตาเล็ด
     "แล้วไงวะ เลยขายเพื่อนงั้นเรอะไง ไอ้เวรเอ๊ย!"
     "ฮึกๆ... มัน.. พวกมันบอกว่า... มันจะทำร้ายน้องฉันด้วย... ฉันยอมไม่ได้.. ขอโทษนะ" เพื่อนผมพูดไปพลางร้องไห้ไปพลาง
     "...เอาเถอะ ฉันมันโง่เอง" ผมพูดออกไป พลางนึกถึงสิ่งที่เธอคนนั้นพูดเอาไว้ว่าให้เชื่อใจกัน
     "คือว่า... ฉันถ่ายรูปเอาไว้นะ พวกมันนะ" เพื่อนผมยกกล้องขึ้นมาให้ผมดู
     "ห๊ะ!!! ว่าไงนะ"
     "คือว่า ฉันเป็นห่วงนายนะ เลยตามไปดู แล้วก็เลยถ่ายรูปตอนพวกมันอัดนายไว้"
     "หึหึหึ... ไม่รอดแน่ ไอ้คุณรุ่นพี่เอ๋ย" ผมแสยะยิ้มพลางหัวเราะหึหึ


++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


4/4/2554


     "อ้าว ตายจริง เจอกันอีกแล้วน่ะคะ" เธอพูดทักผมขึ้นมา
     "อ้าว คุณนะเอง โชคดีจังนะครับ" ผมตอบกลับไป
     "แล้วได้แผลมายังไงค่ะนะ?" เธอพูดพลางชี้ไปที่แผลบนใบหน้าผม
     "ฮ่ะๆๆ นิดหน่อยนะครับ"
     "งั้นหรอคะ ฉันเองก็แย่เหมือนกันนะคะ โดนคนโทรมาแกล้งตั้ง 5 ครั้งแน่ะคะ แย่จริงๆ"
     "งั้นหรอครับ แย่จริงๆเลยนะครับ"
     "ว่าแต่คุณเถอะ ได้แผลมาแบบนี้ สงสัยที่ฉันบอกให้พระเจ้าคุ้มครองคงไม่ได้ผลสินะค่ะ"
     ".... เปล่าหรอกครับ ถึงจะไม่มีพระเจ้า แต่ผมก็ยังคงเชื่อใจในมนุษย์อยู่ดี" ผมตอบกลับไป


++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


ส่งท้ายก่อนนอน

     เรื่อง TRUST นี้ผมได้แรงบันดาลใจมาจากวัน April Fool's ที่ผ่านมา ซึ่งผมเองก็โดนไปหลายดอกเหมือนกันนะครับ(ฮา) เรื่องความเชื่อใจเนี่ย แต่ละคนคงมีไม่เท่ากันสินะครับ อย่างผมเองก็เป็นคนเชื่อคนง่ายซะด้วยสิ(เลยอิ่มหญ้าเลย) 
     ในเรื่องนี้ผมไม่ได้ใส่ชื่อหรือรายละเอียดของตัวละครไว้เลย เพราะเป็นงานสั้นๆ ที่ไม่อยากให้ทุกคนจดจ่อมากเกินไป เพราะเขียนขึ้นมาเพื่อให้ทุกคนทีความเชื่อใจในกันและกันมากขึ้น(ไม่ใช่เพราะคิดไอเดีย G-Slay ไม่ออกหรอกนะครับ!) อย่างตัวเอกของเรา ที่โดนหลอกมามากมายหลายปี กลับให้อภัยเพื่อนที่ทำความผิดร้ายแรง เพียงเพราะคำพูดของผู้หญิงที่เจอโดยบังเอิญ ซึ่งผมคิดว่าคงจะแทบไม่มีคนแบบนี้ในโลกจริงแน่ๆ หรือจะเพื่อนตัวเอก ที่ทำผิดแล้วกล้ารับผิด แถมยังเป็นห่วงเพื่อนที่ตัวเองทำร้ายอีก จะว่ากลับใจหรือยังไงดีละเนี่ย และตัวละครสำคัญที่ทำให้ตัวเอกของเราตัดสินใจเชื่อใจเพื่อนอีกครั้ง หญิงสาวปริศนา ที่เป็นคนคิดแง่บวก และทำให้ตัวเอกของเราคิดที่จะเชื่อใจเพื่อนอีกครั้งหนึ่ง
     สุดท้ายนี้อยากจะฝากไว้ว่า"มนุษย์ ไม่ใช่สิ่งที่สมบูรณ์แบบ เพราะพวกเราไม่สามารถอยู่โดยปราศจากพวกพ้องได้" เพราะฉะนั้น "การเชื่อใจ" ในพวกพ้องของเรา ก็เป็นสิ่งจำเป็นที่จะทำให้พวกเราอยู่ได้อย่างมีความสุขนะครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น